Runway Condition Report (RCR)
สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่น่ารักของ Rookie Flight Dispatcher ในวันนี้กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังเผชิญกันอยู่ในตอนนี้ทำให้หลายๆ สายการบินได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย ที่ต้องหมุนเวียนเปลี่ยนย้ายไปทำงานในตำแหน่งอื่นชั่วคราว แต่อย่างที่ทราบกันครับว่าขณะนี้หลายๆ สายการบินได้ให้พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว หวังว่าเราคงจะได้กลับมาบินกันเหมือนเดิมในเร็ววันนี้ครับ
สำหรับบทความนี้ผู้เขียนขอนำผู้อ่านทุกท่านมาเตรียมตัวก่อนสักเล็กน้อย ก่อนที่จะถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 นี้…ว่าแต่มันมีอะไรเหรอ?
หากผู้อ่านได้ติดตามข้อมูล AIC (Aeronautical Information Circular) ฉบับที่ 01/21 เมื่อวันที่ 8 APR 2021 ที่ทาง CAAT ประกาศออกมา คงพอจะทราบกันคร่าวๆ แล้วว่าในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 นี้ เวลา 0000UTC หรือ 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่นในประเทศไทย จะมีการเริ่มใช้งาน ICAO Global Reporting Format (GRF) รูปแบบใหม่ รวมถึง SNOWTAM รูปแบบใหม่ ซึ่งได้มีการปรับปรุงให้มีรูปแบบการรายงานสภาพพื้นผิวของทางวิ่ง (Runway Surface Condition) โดยการใช้ RWYCC (Runway Condition Code) เข้ามาแทนการรายงานสภาพพื้นผิวของทางวิ่งด้วยค่าสัมประสิทธิ์เสียดทาน (Mu) แบบเดิม ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาตามอ่านกันไปด้วยกันนะครับ
เริ่มจากทาง ICAO ได้พยายามปรับปรุงรูปแบบของ Global Reporting Format (GRF) ในการรายงานสภาพพื้นผิวของทางวิ่ง เพื่อให้สายการบินสามารถปฏิบัติการบินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในการนำเอาสภาพพื้นผิวของทางวิ่งไปใช้เพื่อคำนวณประสิทธิภาพของอากาศยาน (Aircraft Performance) ในการนำเครื่องบินวิ่งขึ้น (Takeoff) และ ลงจอด (Landing) ซึ่งรายละเอียดต่างๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเอกสารหลายฉบับมากๆ ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้นะครับ
Annex 14 — Aerodromes, Volume I — Aerodrome Design and Operations;
Annex 3 — Meteorological Service for International Air Navigation;
Annex 6 — Operation of Aircraft;
- Part I — International Commercial Air Transport — Aeroplanes and
- Part II — International General Aviation — Aeroplanes;
Annex 8 — Airworthiness of Aircraft;
Annex 15 — Aeronautical Information Services;
Procedures for Air Navigation Services (PANS) — Aerodromes (PANS-Aerodromes, Doc 9981);
Procedures for Air Navigation Services (PANS) — Air Traffic Management (PANS-ATM, Doc 4444);
Procedures for Air Navigation Services (PANS) — Aeronautical Information Management (PANS-AIM, Doc 10066)
เหตุผลที่ต้องมีข้อมูลไว้ในเอกสารหลายฉบับนั้น เนื่องจากการปรับปรุง GRF ในครั้งนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็น Airport Operator, ATC, Pilot และ Flight Dispatcher อย่างเรานั่นเองครับ
โดยสาระสำคัญของการปรับปรุง GRF ในครั้งนี้คือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายงานสภาพพื้นผิวทางวิ่งให้มีรูปแบบเดียวกัน ใช้เหมือนกันทั้งโลก จะได้เข้าใจเหมือนกัน และจะไม่ใช้ค่า Mu ในการรายงานแล้วนะ แต่จะใช้ค่า RWYCC (Runway Condition Code) ที่ได้จากตาราง RCAM (Runway Condition Assessment Matrix) แทน ซึ่งรวมๆ กันแล้วให้เรียกว่า RCR (Runway Condition Report)
โดยจะเริ่มจากทางสนามบินจะเป็นผู้ประเมินสภาพพื้นผิวทางวิ่ง โดยใช้เงื่อนไขตามตาราง RCAM จากนั้นก็จะออก RCR เพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน ซึ่งเมื่อทางหอบังคับการบินทราบแล้วก็จะแจ้งให้นักบินทราบผ่านช่องทางที่สามารถติดต่อได้ เช่น วิทยุ เป็นต้น ซึ่งเมื่อนักบินรับทราบข้อมูลแล้วก็นำเอาไปคิด Performance ที่เหมาะสมในการปฏิบัติการบิน แต่หากเมื่อทำการบินจริงๆ แล้วพบว่า Breaking Action นั้นแย่กว่าที่ได้รับจาก RCR ก็จะเป็นหน้าที่ของ Pilot-In-Command ที่จะต้อง (Shall) ส่ง AIREPs เพื่อแจ้งข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ถึงตรงนี้ผู้อ่านทุกท่านคงพอมองเห็นภาพของกระบวนการรายงานสภาพพื้นผิวทางวิ่งกันแล้วนะครับ ดังนั้นในส่วนถัดไป ผู้เขียนจะพาไปดูว่า RCR หน้าตาเป็นอย่างไร และจะใช้งานอย่างไรครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่า RCR หรือ Runway Condition Report นั้น จะประกอบด้วยเนื้อหา 2 ส่วน คือ 1) Aeroplane Performance Calculation (APC) และ 2) Situation Awareness (SA) ครับ หน้าตาจะเป็นแบบตัวอย่างด้านล่างนี้ ซึ่งผู้เขียนนำมาจากเอกสาร EUR Doc 041 — Guidance on the Issuance of SNOWTAM
(SNOWTAM 0153
EADD
02170435 09L 5/5/5 100/100/100 NR/NR/03 WET/WET/SLUSH
02170415 09R 5/2/2 100/50/75 NR/06/06 WET/SLUSH/SLUSH
02170400 09C 2/2/2 75/75/50 06/12/12 SLUSH/SLUSH/SLUSH 40(เว้น 1 บรรทัด)
DRIFTING SNOW. RWY 09L LOOSE SAND. RWY 09L CHEMICALLY TREATED. RWY 09R CHEMICALLY TREATED. RWY 09C CHEMICALLY TREATED.)
ส่วนที่เป็น APC คือ ด้านบนก่อนถึงเว้นบรรทัด
EADD
02170435 09L 5/5/5 100/100/100 NR/NR/03 WET/WET/SLUSH
02170415 09R 5/2/2 100/50/75 NR/06/06 WET/SLUSH/SLUSH
02170400 09C 2/2/2 75/75/50 06/12/12 SLUSH/SLUSH/SLUSH 40
ส่วนที่เป็น SA คือ ด้านล่างจากที่เว้นบรรทัด
DRIFTING SNOW. RWY 09L LOOSE SAND. RWY 09L CHEMICALLY TREATED. RWY 09R CHEMICALLY TREATED. RWY 09C CHEMICALLY TREATED.
เราจะมาเริ่มกันที่ APC ก่อนครับ ตั้งสติกันดีๆ นะครับ ผู้เขียนจะใส่ [ ] เพื่อบอกว่าส่วนใดคือ Item ใด จะได้สะดวกในการทำความเข้าใจครับ
[A]EADD
[B]02170400 [C]09C [D]2/2/2 [E]75/75/50 [F]06/12/12 [G]SLUSH/SLUSH/SLUSH [H]40
คราวนี้เรามาดูกันในแต่ละ Item นะครับ
Item A: Aerodrome location indicator (สนามบินที่รายงาน RCR) ในตัวอย่างคือ EADD
Item B: Date and Time of assessment (วันที่และเวลาที่ทำการประเมินสภาพพื้นผิวทางวิ่ง) จะอยู่ในรูปแบบของ เดือน-วันที่-ชั่วโมง-นาที เป็น UTC นะครับ ซึ่งในตัวอย่าง 02170400 ก็คือ เดือน 2 วันที่ 17 เวลา 04:00 UTC นั่นเองครับ
Item C: Lower Runway designator number (หมายเลขทางวิ่ง โดยจะใช้ทางวิ่งที่มีตัวเลขน้อยที่สุดในการรายงานเสมอ) ในตัวอย่างคือ 09C ซึ่งทางวิ่ง 09C จะมีปลายอีกฝั่งหนึ่งเป็น 27C แต่ในการรายงานจะระบุเป็นทางวิ่ง 09C เนื่องจากเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าอีกฝั่งหนึ่งนะครับ เพราะฉะนั้นเวลาทำการบินต้องพิจารณาดีๆ ซึ่งในวันนั้นอาจจะใช้ทางวิ่ง 27C ก็ได้ ดังนั้นเราจะต้องทราบว่ารายงานของทางวิ่ง 09C ก็คืออันเดียวกันกับทางวิ่ง 27C ครับ
Item D: Runway Condition Code for each runway third (ตัวเลข RWYCC ที่ได้จากตาราง RCAM นั่นแหละครับ โดยใช้หลักการแบ่งความยาวทางวิ่งออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน โดยตัวเลข 1 ตัวจะแทนค่าของแต่ละส่วนของความยาวทางวิ่งที่แบ่งไว้) ในตัวอย่างคือ 2/2/2 เมื่อไปดูตาราง RCAM จะเห็นว่ามันเป็น More than 3mm depth of water or slush: STANDING WATER, SLUSH ซึ่งในส่วนนี้เราจะยังไม่ทราบว่ามันคืออะไรระหว่าง STANDING WATER กับ SLUSH แต่เราจะทราบเพียงว่า ทั้ง 3 ส่วนของความยาวทางวิ่ง มี RWYCC เป็น 2 เหมือนกันทั้งหมด
Item E: Per cent coverage (อัตราการครอบคลุมของ Condition จาก Item D โดยถ้าหาก Item D ไม่ได้มีค่าเป็น 6 จะต้องมีการระบุ Per cent coverage เสมอ ซึ่งจะใช้ค่าต่อไปนี้
NR : น้อยกว่า 10% หรือ DRY
25 : 10%–25%
50: 26%-50%
75: 51%-75%
100: 76%-100%
จากตัวอย่างเป็น 75/75/50 หมายความว่า
ส่วนที่ 1 ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 51%-75%
ส่วนที่ 2ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 51%-75%
ส่วนที่ 3 ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 26%-50%
Item F: Depth of loose contaminant (ความลึกของ Runway Condition นั้นๆ มีหน่วยเป็น มิลลิเมตร (mm) โดยจะระบุเป็นตัวเลข 2–3 หลัก ซึ่งในตัวอย่างเป็น 06/12/12 หมายถึง
ส่วนที่ 1 ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 51%-75% ความลึก 6 มิลลิเมตร
ส่วนที่ 2ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 51%-75% ความลึก 12 มิลลิเมตร
ส่วนที่ 3 ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 26%-50% ความลึก 12 มิลลิเมตร
Item G: Condition description (บรรยายลักษณะของสภาพพื้นผิวทางวิ่ง) โดยในตัวอย่างคือ SLUSH/SLUSH/SLUSH หมายความว่า
ส่วนที่ 1 ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 51%-75% ความลึก 6 มิลลิเมตร เป็น SLUSH
ส่วนที่ 2ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 51%-75% ความลึก 12 มิลลิเมตร เป็น SLUSH
ส่วนที่ 3 ของระยะทางวิ่ง มี RWYCC 2 Coverage 26%-50% ความลึก 12 มิลลิเมตร เป็น SLUSH
ซึ่งจะทำให้เราทราบแล้วว่าสิ่งที่ RWYCC ระบุไว้ใน Item D คืออะไร ซึ่งในตัวอย่างเป็น SLUSH ทั้ง 3 ส่วนของความยาวทางวิ่ง
Item H: Width of runway to which the Runway Condition Codes apply (ในกรณีที่ RWYCC นั้นๆ ไม่ได้มีผลกับความกว้างทั้งหมดของทางวิ่ง ก็จะมีการระบุไว้ว่าจริงๆ แล้ว RWYCC นั้นๆ มีความครอบคลุมความกว้างเท่าใดของทางวิ่งนั้นๆ มีหน่วยเป็นเมตร (m)) จากตัวอย่าง ระบุว่า 40 หมายถึง RWYCC 2 ที่ระบุไว้นั้นครอบคลุมความกว้างของทางวิ่ง 09C แค่ 40 เมตรเองนะ (ซึ่งทางวิ่ง 09C อาจจะกว้าง 60 เมตร เป็นต้น)
จบไปแล้วนะครับในส่วนของ APC ซึ่งผู้เขียนจะต่อด้วยส่วนของ SA เลยนะครับ ซึ่งในส่วนนี้จะง่ายกว่าในของ APC เล็กน้อยครับ เนื่องจากจะเป็นข้อความที่มนุษย์ทั่วไปสามารถอ่านและเข้าใจได้ โดยจะมีลักษณะดังนี้
ส่วนของ SA จะอยู่ด้านล่างบรรทัดที่เว้นว่างไว้หลังจากสิ้นสุดส่วนของ APC แล้ว
ทุกๆ SA จะสิ้นสุดด้วย Full Stop (.) หรือ จุด เสมอ
เรามาดูกันในแต่ละ SA เลยดีกว่าครับ
- Reduce runway length [ตัวอย่าง: RWY 09C REDUCED TO 2800.] เป็นการระบุว่าระยะทางวิ่งลดลงเหลือระยะทางเท่าใด (หน่วยเป็นเมตร)
- Drifting snow on the runway [ตัวอย่าง: DRIFTING SNOW. หรือ RWY 09C DRIFTING SNOW.] เป็นการระบุว่ามี Drifting snow บนทางวิ่ง (ระบุหมายเลขทางวิ่ง) แต่ในกรณีที่ไม่ระบุหมายเลขทางวิ่งหมายถึง มีผลทั้งสนามบิน
- Loose sand on the runway [ตัวอย่าง: RWY 09C LOOSE SAND.] เป็นการระบุว่ามี Loose sand บนทางวิ่ง
- Chemical treatment on the runway [ตัวอย่าง: RWY 09C CHEMICAL TREATED.] เป็นการระบุว่ามีการใช้สารเคมีบนทางวิ่ง
- Snow banks on the runway [ตัวอย่าง: RWY 09C SNOW BANK L12 FM CL.] เป็นการระบุว่ามี Snow bank บนทางวิ่ง หรือในกรณีที่ต้องการระบุเพิ่มเติมว่า Snow Bank นั้นกินพื้นที่เท่าใดจาก Runway Center Line สามารถระบุด้วย L หรือ R ได้ (ในกรณีที่เป็นทั้ง 2 ฝั่ง ให้จะระบุโดยใช้ LR) แล้วตามด้วยตัวเลขเป็นเมตร จากตัวอย่างหมายถึง ทางวิ่ง 09C มี Snow Bank ครอบคลุมพื้นทางจาก Center Line ไปทางซ้าย 12 เมตร
- Snow banks on a taxiway [ตัวอย่าง: TWY B SNOW BANK.] เป็นการระบุว่ามี Snow bank บนทางขับ
- Snow banks on adjacent to the runway [ตัวอย่าง: RWY 09C ADJ SNOW BANKS.] เป็นการระบุว่ามี Snow bank อยู่ติดกับทางวิ่ง
- Taxiway conditions [ตัวอย่าง: TWY B POOR. หรือ ALL TWYS POOR.] เป็นการระบุสภาพของทางขับในกรณีที่ POOR ซึ่งสามารถระบุเป็นแต่ละ Taxiway หรือ ทุกๆ Taxiway ได้
- Apron conditions [ตัวอย่าง: APRON 1 POOR.] เป็นการระบุสภาพของ APRON ในกรณีที่ POOR ซึ่งในกรณีนี้จะต้องพิจารณา Aerodrome Chart ประกอบ เพื่อดูว่า Apron ในสนามบินนั้นๆ ชื่ออะไร อยู่ตรงไหนบ้าง
- Plain language remark (ข้อความหมายเหตุ เป็นภาษาปกติที่เข้าใจได้โดยทั่วไป)
สำหรับส่วนของ SA ก็จบไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ เชื่อว่าคุณผู้อ่านจะสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่าส่วนของ APC แน่นอนครับ
อยู่ด้วยกันมายาวนานเลยนะครับ หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวก่อนที่จะมีการใช้งาน GRF ในประเทศไทยวันที่ 4 NOV 2021 ที่จะถึงนี้ครับ (ซึ่งตอนนี้มีบางประเทศเริ่มใช้งานไปก่อนแล้ว)
สำหรับบทความต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร อย่าลืมติดตามกันนะครับ และผู้อ่านทุกท่านสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ Facebook Fanpage: Rookie Flight Dispatcher ครับ
วันนี้ขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะครับ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงครับ